Professional Documents
Culture Documents
บทคัดย่ อ
ยา (drug, medicine) เป็ นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสาคัญต่อการดารงชีวติ ในปั จจุบนั การเสี ยชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ
มีแนวโน้มสู งขึ้นทุก ๆ ปี แต่ในทางตรงข้ามการเสี ยชีวิตจากอุบตั ิเหตุกลับลดลง สาเหตุที่คนไทยเสี ยชีวิตด้วยโรคที่เกิดจาก
ความเจ็บป่ วยสู งขึ้นนั้นอาจเกิดจากปั ญหาที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงยาได้ เนื่องจาก ยารักษาโรคมีราคาแพงขึ้น ถึงแม้วา่
รัฐบาลจะออกมาตรการในการดูแลสุ ขภาพของประชาชน ตั้งแต่ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค จนถึงหลักประกันสุ ขภาพ
ถ้วนหน้าแล้วก็ตาม ปั ญหาการเข้าถึงยาของประชาชนชาวไทยยังคงเป็ นปั ญหาที่ ตอ้ งติ ดตามและหาทางแก้ไขอย่างเป็ น
รู ปธรรมและเป็ นระบบ จากแนวความคิดนี้ จึงได้มีการจัดตั้งสมัชชาสุ ขภาพแห่ งชาติข้ ึน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกภาค
ส่ วนที่เกี่ยวข้อง สาระสาคัญของแผนปฏิบตั ิการฯ ที่ได้ผา่ นความเห็นชอบจากสมัชชาฯ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ สนับสนุน
กลุ่มผูป้ ่ วยให้สามารถเข้าถึงยา และส่ งเสริ มให้มีส่วนร่ วมในการดูแลสร้างเสริ มสุ ขภาพ ช่วยให้ผปู ้ ่ วยมียาที่จาเป็ นต้องใช้เมื่อ
ยามเจ็บป่ วย ทั้งยาแผนปั จจุบนั ยาแผนไทย และยาสมุนไพร โดยอาศัยกลไกการทางานปกติจากคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่
คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดูแลอยู่ การกาหนดราคากลางของยาเป็ นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหายาราคาแพง ซึ่ งวิธีน้ ี ได้
มีการดาเนิ นการมาเป็ นระยะเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ เป็ นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถ
เข้าถึงยาได้ถว้ นหน้า อย่างเท่าเทียมกัน จากปั ญหาดังกล่าว สานักงานเลขาธิ การ สภาติบญั ญัติแห่ งชาติ มีหนังสื อลงวันที่ 18
ตุลาคม 2550 เกี่ ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติ มพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 โดยมี การกาหนดประเด็นการเปิ ดเผยข้อมูลของ
โครงสร้างราคายา ซึ่ งประกอบด้วยต้นทุนของตัวยาสาคัญ (active ingredients) ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
ในพระราชบัญญัติยา และเพื่อให้ทราบถึงโครงสร้างราคายาตามใบสั่งแพทย์ที่ถูกใช้บ่อยในปั จจุบนั ซึ่ งจะเป็ นแนวทางใน
การเปรี ยบเทียบกับโครงสร้างราคายาที่จะขอขึ้นทะเบียนใหม่ และสามารถใช้เป็ นแนวทางในการหาวิธี ที่เหมาะสมในการ
กาหนดราคายาที่จาหน่ายอยูใ่ นท้องตลาด ผูว้ ิจยั จึงสนใจที่จะทาการศึกษาองค์ประกอบของโครงสร้างต้นทุนราคายา และ
ศึกษาถึงข้อจากัดต่างๆที่ทาให้วิธีการกาหนดราคายากลางไม่สามารถแก้ปัญหาการเข้าถึงยาได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ
1
ได้รบั ทุนสนับสนุ นจากแผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง
เสริมสุขภาพ (สสส.)
Abstract
Drug (medicine) is one of four elements that are important for life. Nowadays, deaths from diseases have been increasing
every year while deaths from accidents have been decreasing. The cause of death from diseases probably because Thais
could not affords the expensive drug. Although, health-supporting schemes, such as 30 Baht health-care program and
universal health insurance policy, are provided by Thai government. It doesn’t seem that the accessible to medicine of
Thais can be solved. This idea leads to the establishment of the National Health Assembly (NHA), which has an objective
to gather the opinions of all stakeholders concerned. The essence of the action plan, which has been already approved by
the National Health Assembly, is to support patients to access drugs at reasonable prices. Thus, all patients who need drug
treatments should be able to access to medicine, traditional Thai medicine and/or herbal medicine through the normal
mechanism set up by the Food and Drug Administration (FDA). Again, it is found that the normal mechanism, which has
been operated for a long time, still cannot help Thai patients to assess the necessary drugs. Therefore, the National
Assembly Committee issued a letter dated October 18, 2550 regarding amendments of the Drug Act BE 2510, with the
topic of disclosure of drug pricing structure. In order to comply with changes in drug act and to understand the structure of
drug prices, researchers are interested to study the structural components of the costs of drugs and limitations of current
drug system that cause standard drug pricing policy cannot be performed effectively.
ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา
ยา (drug, medicine) เป็ นหนึ่ งในปั จจัย 4 ที่มีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของมนุ ษย์ โดยปกติการใช้ยาจะมี 2
ลักษณะคือ การใช้ในการบาบัดอาการของโรค และ การใช้เพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดโรคขึ้น ซึ่ งโดยปกติแล้วหากอาการของโรค
รุ นแรง ราคายาที่ใช้ก็จะมีราคาแพงตามความรุ นแรงและความจาเป็ น เช่นโรคเอดส์ โรคมะเร็ ง และโรคทางด้านสมอง จาก
ข้อมูลทางด้านสถิติ การเสี ยชีวิตของประชากรจากโรคมะเร็ งและเนื้ องอกทุกชนิ ดสู งสุ ดถึงร้อยละ 81.4 ในปี 2548 และอัตรา
ดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ตั้งแต่ปี 2549 ถึง ปี 2552 ในอัตราร้อยละ 83.1 ร้อยละ 84.9 ร้อยละ 87.6 และร้อยละ 88.3
ตามลาดับ (รวบรวมและวิเคราะห์โดย : กลุ่มภารกิจด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศสุ ขภาพ สานักนโยบายและยุทธศาสตร์
สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุ ข กระทรวงสาธารณสุ ข ) ส่ วนการเสี ยชีวิตเนื่ องจากสาเหตุโรคอื่นก็มีแนวโน้มสู งขึ้นด้วย
เช่นกัน ในทางตรงข้าม การเสี ยชีวิตจากสาเหตุทางอุบตั ิเหตุกลับลดลง สาเหตุหนึ่งที่ทาให้คนไทยเสี ยชีวิตด้วยความเจ็บป่ วย
สู งขึ้นนั้น อาจเกิดจากการไม่สามารถเข้าถึงยาได้ทนั เวลาเนื่องจากยาที่จาเป็ นต้องใช้มีราคาแพง ถึงแม้วา่ รัฐบาลหลายรัฐบาล
พยายามที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการออกมาตรการต่างๆในการดูแลสุ ขภาพของประชาชน ตั้งแต่ โครงการ 30 บาท รักษา
ทุกโรค จนถึงโครงการหลักประกันสุ ขภาพถ้วนหน้าแล้วก็ตาม
ปั ญหาการเข้าถึงยาของประชาชนชาวไทย ยังคงเป็ นปั ญหาที่ ตอ้ งติ ดตามและหาทางแก้ไขให้เป็ นรู ปธรรมอย่าง
เร่ งด่วน จากแนวความคิดนี้ พฒั นาขึ้นมาจนกระทัง่ มีการจัดตั้งสมัชชาสุ ขภาพแห่ งชาติข้ ึน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกภาค
ส่ วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะอนุกรรมการซึ่ งเป็ นที่ยอมรับของทุกฝ่ ายเป็ นผูด้ าเนิ นการเพื่อให้ได้มาซึ่ งแผนปฏิบตั ิการฯ และ
เพื่อให้แผนนี้ เป็ นไปอย่างเป็ นรู ปธรรมและต่อเนื่ อง สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แผนงานคุม้ ครองผูบ้ ริ โภค
ด้านสุ ขภาพ (คคส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสานักงานคณะกรรมการสุ ขภาพแห่ งชาติ (สช.) ได้จดั แถลงข่าว “จับหั วใจ
6 แผนปฏิบัติการเคลื่อนยุทธศาสตร์ เข้ าถึงยาถ้ วนหน้ า” หลังจากเปิ ดเวทีรับฟังความเห็นเกี่ยวกับแผนปฏิบตั ิการจากหน่วยงาน
ภาครั ฐและเอกชน นักวิชาการ โดยมี วตั ถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยมี ยาที่ จาเป็ นใช้อย่างทัว่ ถึ งทันการณ์ และสามารถ
Page |3
ออกประกาศสิ ทธิ เหนือสิ ทธิ บตั รกับยาที่มีสิทธิ บตั รเพิ่มอีก 4 รายการ คือ 1) โดซี แท็กเซล (Docetaxel) ยารักษาโรคมะเร็ ง
ปอดและมะเร็ งเต้านม 2) ยาเออร์โลทินิบ (Erlotinib) ยารักษาโรคมะเร็ งปอด 3) เลโทรโซล (Letrozole) ยารักษาโรคมะเร็ งเต้า
นม และ 4) ยาอิมาทินิบ (Imatinib) ยารักษามะเร็ งเม็ดเลือดขาวและมะเร็ งทางเดินอาหาร
ผลดีในการประกาศ CL ยา ทาให้ยามี ราคาถูกลงอย่างมากทาให้ประชาชนที่ ตอ้ งการใช้ยามี โอกาสได้เข้าถึ งยา
ได้มากขึ้น โดยที่ยาที่ประกาศใช้ในครั้งแรกทั้ง 3 ตัวราคาลดลง โดยปกติคนไข้ 1 คนที่ใช้ยา Efavirenz จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ
ประมาณ 1,300 บาท ลดลงเหลือเพียงเดือนละประมาณ 650 บาท และ Clopidogrel จากราคาเม็ดละกว่า 70 บาท เหลือเพียง
เม็ดละไม่เกิ น 10 บาท การที่ยารักษาโรคมะเร็ งมีราคาถูกลงอย่างมากทาให้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคสามารถดาเนิ น
ต่อไปได้โดยที่รัฐบาลประหยัดงบประมาณได้ไม่ต่ากว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตามการประกาศสิ ทธิ เหนือสิ ทธิ บตั รยา ทาให้ประเทศไทยถูกจับตามองว่าเป็ นประเทศที่ละเมิดลิขสิ ทธิ์
และลดระดับประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามอง (Watch List: WL) ไปเป็ นประเทศที่ถูกจับตามองเป็ นพิเศษหรื อ
Priority Watch List (PWL) ยิง่ กว่านั้นประเทศสหรัฐอเมริ กายังได้ประกาศที่จะตัดสิ ทธิ พิเศษทางภาษี (Generalized System
of Preferences: GSP) ของไทยอันเป็ นผลให้ธุรกิจส่ งออกของไทยซบเซาลง และหากประเทศไทยมีการเพิ่มการประกาศใช้
สิ ทธิเหนือสิ ทธิบตั รยามากชนิดขึ้น ประเทศไทยอาจจะถูกจัดอยูใ่ นกลุ่มประเทศที่มีการละเมิดลิขสิ ทธิ์ มากที่สุด หรื อ Priority
Foreign Country (PFC) และประเทศสหรัฐอเมริ กาจะใช้ทุกยุทธวิธีในการกีดกันทางการค้าเป็ นการตอบโต้ จากปั ญหา
ดังกล่าว สานักงานเลขาธิ การ สภาติบญ ั ญัติแห่ งชาติ ได้มีหนังสื อลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 โดยมีการกาหนดประเด็นของการเปิ ดเผยข้อมูลของโครงสร้างราคายาซึ่ งประกอบด้วยต้นทุน
ของตัวยาสาคัญ (active ingredients) และส่ วนผสมอื่นๆ เช่น แป้ ง น้ าตาล กลูโคส วัสดุบรรจุหีบห่ อ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายการ
ผลิต ค่าการตลาด ค่าโฆษณา เป็ นต้น การเปิ ดเผยข้อมูลเหล่านี้ จะเป็ นแนวทางให้ผบู ้ ริ โภคตัดสิ นใจเลือกบริ โภคยาแต่ละ
ประเภทได้อ ย่า งมี เหตุ ผล โดยอาจเลื อกยาตัวอื่ น ซึ่ งมี ร าคาถูก กว่า แต่ คุ ณ ภาพหรื อคุ ณ สมบัติ ในการรั ก ษาใกล้เ คี ย งกัน
นอกจากนี้ แล้วพระราชบัญญัติยาฉบับใหม่ที่จะนามาใช้ ยังไม่รับขึ้ นทะเบี ยนตารั บยาที่ มีโครงสร้ างราคายาไม่สมเหตุผล
หรื อไม่คุม้ ค่า พร้อมกันนี้ ยงั จะนามาตรการการควบคุมราคายากับยาที่จาหน่ายอยูใ่ นท้องตลาดด้วยการติดป้ ายราคาขาย และ
การขึ้นราคาต้องได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เช่นเดียวกับสิ นค้าอุปโภคบริ โภคที่จาเป็ น
ตัวอื่นด้วย
ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงในพระราชบัญญัติยาฉบับใหม่และ
เพื่อให้ทราบโครงสร้างของราคายาตามใบสั่งแพทย์ที่สาคัญ ซึ่ งจะสามารถใช้เป็ นแนวทางในการเปรี ยบเทียบกับโครงสร้าง
ราคาของยาที่จะขอขึ้นทะเบียนใหม่และใช้เป็ นแนวทางในการควบคุมราคายาที่ปัจจุบนั จาหน่ายอยูใ่ นตลาด พร้อมกันนี้ เพื่อ
ตรวจสอบความเหมาะสมของราคากลางของยาที่ กาหนดอยู่ในปั จจุบนั ว่าเหมาะสมหรื อไม่ ตลอดจนเป็ นแนวทางในการ
จ่ายเงินชดเชยประเทศเจ้าของสิ ทธิ บตั รที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศสิ ทธิ เหนื อสิ ทธิ บตั รยา (CL) และเพื่อต้องการ
เปรี ยบเทียบโครงสร้างต้นทุนของยาสามัญที่นาเข้าจากต่างประเทศ และยาสามัญที่ผลิตในประเทศเพื่อใช้เป็ นแนวทางในการ
ควบคุมราคายาให้เหมาะสม ตลอดจนใช้ในการวางแผนเพื่อลดต้นทุนงบประมาณยาของประเทศหรื อควบคุมให้เหมาะสม
ผูว้ ิจยั จึงสนใจศึกษาองค์ประกอบของโครงสร้างต้นทุนราคายาที่ใช้ในปัจจุบนั ของกลุ่มยา 4 ลักษณะดังนี้
1. กรณี ศึกษายาใหม่ราคาแพง ที่เป็ นยาจาเป็ น
2. กรณี ศึกษายาใหม่ ที่เป็ นยา Me-too ที่ยาต้นตารับเพิ่งหมดสิ ทธิ บตั รไป
3. กรณี ศึกษายาชื่อสามัญที่นาเข้า ได้แก่
3.1 กลุ่มยาที่ตอ้ งทาการศึกษาชีวสมมูล (Bioequivalence study)
3.2 กลุ่มยาที่ไม่ตอ้ งทาการศึกษาชีวสมมูล (Bioequivalence study)
Page |5
4. กรณี ศึกษายาชื่อสามัญที่ผลิตในประเทศ
4.1 ยาที่ตอ้ งทาการศึกษาชีวสมมูล (Bioequivalence study)
4.2 กลุ่มที่ไม่ตอ้ งทาการศึกษาชีวสมมูล (Bioequivalence study)
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
การวิจยั นี้มีวตั ถุประสงค์ดงั ต่อไปนี้ คือ
1. เพื่อวิเคราะห์สัดส่ วนของโครงสร้างต้นทุนราคายาที่ใช้ในปั จจุบนั โดยแยกเป็ นยาใหม่ (new drugs) ที่ยงั ติด
สิ ทธิบตั ร ทั้งยาที่มีการออกฤทธิ์ ด้วยกลไกใหม่ (new chemicals) และยาที่ออกฤทธิ์ ดว้ ยกลไกเดิม (me-too)
2. เพื่อเปรี ยบเทียบโครงสร้างของราคายาชื่อสามัญ (generic products) ที่นาเข้าและที่ผลิตในประเทศ
3. เพือ่ เปรี ยบเทียบราคายาที่ใช้ในปั จจุบนั ตามโครงสร้างของต้นทุนราคายาที่คานวณได้กบั ราคายาซึ่ งโรงพยาบาล
ภาครัฐและเอกชนจาหน่ายให้คนไข้ และราคายากลาง (ถ้ามี)
4. วิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคในการสารวจข้อมูลจากภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมศุลกากร กรมการค้าภายใน
กรมการค้าต่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากร เพือ่ ใช้เป็ นแนวทางในการแก้ปัญหาและเป็ นข้อเสนอแนะ
ให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องปรับปรุ งฐานข้อมูลและวิธีการเก็บข้อมูล เพื่อให้เป็ นประโยชน์กบั ประเทศมากที่สุด
5. วิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคในการสารวจข้อมูลจากภาคเอกชน ได้แก่บริ ษทั ตัวแทนจาหน่าย บริ ษทั ผูผ้ ลิต และ
บริ ษทั นาเข้าและส่ งออก เพื่อกาหนดรู ปแบบการนาเสนอข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องในอันที่จะเป็ นประโยชน์ต่อ
สาธารณชนทัว่ ไป
ขอบเขตของการวิจัย
ขอบเขตของการวิจยั ประกอบด้วยการเก็บข้อมูลแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทคือ
1. การสั มภาษณ์ เชิงลึก โดยเลือกผูใ้ ห้ขอ้ มูลสาคัญ (key respondents หรื อ key informants) จากตัวแทนของบุคลากร
ที่เกี่ยวข้องแยกออกเป็ น 2 กลุ่ม ดังนี้
Page |6
กรอบแนวคิดของการศึกษามีดงั นี้
ราคาโอนจากบริษทั แม่ใน
ต่างประเทศ
ค่าใช้จา่ ยในการ
ค่าภาษีศุลกากร
บริหาร
โครงสร้างต้นทุนราคายา โครงสร้างต้นทุนราคายา
สามัญทีน่ าเข้า สามัญทีผ่ ลิตในประเทศ
4.เปรียบเทียบโครงสร้ างราคายากับราคาตลาดของยาที่ขายในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน
โครงสร้างต้นทุนราคายาของ ความสัมพันธ์
โรงพยาบาลสาหรับยานาเข้า
ราคายาในกลุม่ ตัวอย่างที่
ขายในโรงพยาบาลของรัฐ
และเอกชน
โครงสร้างต้นทุนราคายาของ
โรงพยาบาลสาหรับยาสามัญ ความสัมพันธ์
ทีผ่ ลิตในประเทศ
สมมติฐานของการวิจัย
1. โครงสร้างต้นทุนราคายานาเข้าประกอบด้วย ราคาโอน 75% + ค่าภาษีศุลกากร 4% + ค่าใช้จ่ายในการขนส่ ง 4%
+ค่าใช้จ่ายในการออกของ 2% +ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน 10% + กาไรที่ตอ้ งการ 5%
2. โครงสร้างราคายาสาหรับกลุ่มตัวอย่างเป็ นไปตามหลักของ Cost Oriented Pricing
นิยามศัพท์
ความหมายของต้ นทุน
ต้นทุน (cost) หมายถึง “รายจ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่ งสิ นค้าหรื อบริ การซึ่ งอาจจ่ายเป็ นเงินสด สิ นทรัพย์อื่น หุ ้น
ทุน หรื อการให้บริ การ หรื อการก่อหนี้ ทั้งนี้ รวมถึงผลขาดทุนที่วดั ค่าเป็ นตัวเงินได้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่ งสิ นค้า
หรื อบริ การ”
P a g e | 10
The American Accounting Association (AAA) ได้ให้ความหมายของ “ ต้นทุน (cost) ” ว่า “Cost is a foregoing
measured in monetary terms, incurred or potentially to incurred to achieve a specific objective”.
The American Institute of Certified Public Accountants (AICPA) ได้ให้ความหมายของ “ต้นทุน (cost)” ว่า
“Cost is defined as an exchange price, a foregoing, a sacrifice made to secure benefit”.
The National Association of Accountants (NAA) ได้ให้ความหมายของ “ต้นทุน (cost)” ว่า “The cash or cash
equivalent value required to attain an objective such as acquiring the goods and service used, complying with a contract,
performing a function or product and distributing a product”.
ความหมายของตัวแปรสาหรับยานาเข้ า
ราคาโอน (transfer prices) จากบริ ษทั แม่ในต่างประเทศ เป็ นราคาที่บริ ษทั ผูผ้ ลิตในต่างประเทศตั้งราคา
ที่บริ ษทั ตัวแทนจาหน่ายหรื อบริ ษทั ลูกในประเทศไทยต้องชาระให้บริ ษทั ผูผ้ ลิตในต่างประเทศ
Transfer Pricing คือ การที่คู่สัญญาทาธุ รกรรมระหว่างกัน โดยกาหนดราคาซื้ อ-ขาย สิ นค้าหรื อให้บริ การ
ที่แตกต่างไปจากราคาตลาด หรื อ Arm's Length Price โดยที่กรมสรรพากรได้มีคาสั่งที่ ป.113/2545 (ลงวันที่ 16 พฤษภาคม
2545) เรื่ อง “การเสี ยภาษีเงินได้ของบริ ษทั หรื อห้างหุ ้นส่ วนนิ ติบุคคลกรณี การกาหนดราคาโอนให้เป็ นไปตามราคาตลาด”
เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็ นแนวทางปฏิบตั ิให้เป็ นมาตรฐานเดียวกัน ในการกาหนดแนวทางการประเมินรายได้ หรื อ
รายจ่ายให้เป็ นไปตามราคาตลาดในการคานวณกาไรสุ ทธิ เพื่อเสี ยภาษีเงินได้ของบริ ษทั หรื อห้างหุ น้ ส่ วนนิ ติบุคคล ตลอดจน
ระบุรายละเอี ยดของเอกสารหลักฐาน 10 ข้อที่ ผูเ้ สี ยภาษี ควรจัดทาประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานประเมิ นคาสั่ง
กรมสรรพากรฉบับนี้ จากคาสั่งของกรมสรรพากรข้างต้นเป็ นการออกแนวทางในการแก้ปัญหาในเรื่ องของการหลีกเลี่ยงของ
บริ ษทั ที่มีความเกี่ยวพันกัน อาทิ บริ ษทั ย่อย2 บริ ษทั ร่ วม3 หรื อบริ ษทั ที่เกี่ยวเนื่ องกัน4 เพื่อให้เสี ยภาษีเงินได้นอ้ ยที่สุดหรื อไม่
เสี ยเลย
ค่ าภาษีศุลกากร หมายถึง ภาษีที่เรี ยกเก็บจากราคาศุลกากร
“ราคาศุลกากร” หรื อ “ราคา” แห่งของอย่างใดนั้น ในกรณี ของนาเข้า หมายถึง ราคาของสิ นค้านาเข้าเพื่อ
ใช้เป็ นฐานในการประเมินภาษีอากร ปั จจุบนั ประเทศไทยใช้ราคาศุลกากรที่เรี ยกว่า “ระบบราคาแกตต์ (GATT Valuation)”
ขององค์การศุลกากรโลก (World Trade Organization: WTO) ในการกาหนดราคาสิ นค้าขาเข้าสาหรับการคานวณค่าภาษี
อากร ปกติการกาหนดราคาศุลกากรจะอยูบ่ นพื้นฐานของราคาซื้ อขายของที่นาเข้าซึ่ งเป็ นราคาที่ผซู ้ ้ื อจ่ายหรื อพึงจ่ายจริ ง
ให้กบั ผูข้ ายในต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ราคาซื้ อขายของที่นาเข้านั้น จะอยูภ่ ายใต้เงื่อนไขบางประการ เช่น การซื้ อขายผูซ้ ้ื อกับ
ผูข้ ายต้องไม่มีความสัมพันธ์กนั หรื อการซื้ อขายนั้นต้องไม่มีเงื่อนไขอย่างอื่นอีก จาก Web กรมศุลกากร
ค่ าใช้ จ่ายในการขนส่ ง หมายถึง ค่าขนส่ งสิ นค้าจากประเทศผูผ้ ลิตหรื อผูจ้ าหน่ายจนถึงบริ ษทั ผูน้ าเข้าที่
ผูน้ าเข้าต้องชาระ ซึ่ งหมายรวมถึงค่าขนส่ ง ค่าประกันภัย และค่าดาเนินการต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าถึงสถานที่ของผูน้ าเข้า
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลีย่ นเงินตราต่ างประเทศ หมายถึง ผลต่างระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ต่างประเทศ ณ วันที่ได้รับสิ นค้าและวันที่ชาระเงินค่าสิ นค้า
ค่ าใช้ จ่ายในการนาเข้ า (shipping) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการนาสิ นค้าผ่านด่านศุลกากรที่
ต้องเสี ยให้บริ ษทั ตัวแทนในการนาเข้า-ส่ งออก (shipping)
2
บริ ษทั ที่มีการถือหุน้ ระหว่างกันเกินกว่าร้อยละ 50
3
บริ ษทั ที่มีการถือหุน้ ระหว่างกันตั้งแต่ร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50
4
บริ ษทั ที่มีเจ้าของหรื อผูถ้ ือหุ น้ รายใหญ่เดียวกัน
P a g e | 11
รู ปแบบการตั้งราคาขาย
รายละเอียดของการตั้งราคาทั้ง 3 วิธีมีดังนี้
1. การตั้งราคาโดยมุ่งเน้นที่ตน้ ทุน (cost oriented pricing) เป็ นการนาต้นทุนการผลิตเป็ นฐานในการตั้งราคา ซึ่ งรศ.
ศิริวรรณ เสรี รัตน์และคณะได้จาแนกการตั้งราคาโดยมุ่งเน้นที่ตน้ ทุนออกเป็ นดังนี้
1.1 การตั้งราคาโดยบวกเพิ่มจากต้นทุนเฉลี่ย (average cost pricing) คือการนา full cost ไปเฉลี่ยให้กบั
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ในงวดบัญชีน้ นั และใช้เป็ นฐานในการตั้งราคา ได้สมการราคาดังนี้
Price = average full cost per unit + profit per unit
P a g e | 14
บวกเพิ่ม
บวกเพิ่ม
บวกเพิ่ม ราคาที่ซ้ื อ ราคาที่ซ้ื อ
ต้นทุนผลิต (ต้นทุน) (ต้นทุน)
ผูผ้ ลิต ผูค้ า้ ส่ ง ผูค้ า้ ปลีก
ส่ วนประกอบ (component value pricing) การกาหนดราคาตามราคาตลาด (going-rate pricing) เป็ นต้น นอกจากวิธีการตั้ง
ราคาดังกล่าวแล้วสิ่ งที่ตอ้ งคานึ งถึงในการตั้งราคาคือลักษณะของตลาด ว่าตลาดของผลิตภัณฑ์เป็ นตลาดชนิดผูกขาด ซึ่ งก็คือ
ตลาดสิ นค้าสิ ทธิ บตั รหรื อลิขสิ ทธิ์ ตลาดชนิ ดที่มีผผู ้ ลิตน้อยราย ตลาดที่มีการแข่งขันไม่สมบูรณ์ และประการสุ ดท้ายคือ
ตลาดซึ่ งมีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์
ในกรณี ที่กิจการเป็ นตัวแทนจาหน่ายและนาเข้าสิ นค้าจากต่างประเทศต้นทุนจะเกิดจากราคาโอนของบริ ษทั ผูผ้ ลิต
(transfer prices) บวกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนกระทัง่ สิ นค้าอยูใ่ นสภาพพร้อมที่จะขาย ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้แก่ ค่าขนส่ ง ค่า
ภาษีนาเข้า อากรขาเข้า ค่านาของออก (shipping) และค่าประกันภัยสิ นค้า เป็ นต้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังกล่าวจะ
รวมอยูใ่ นราคาสิ นค้าซึ่ งผูข้ ายแจ้งมาหรื อไม่น้ นั ขึ้นอยูก่ บั เงื่อนไขการส่ งมอบ ตามข้อกาหนดในการส่ งมอบสิ นค้าตาม INCO
TERM 1990 & 2000
งานวิจัยที่เกีย่ วข้ อง
ดวงกมล เลาหเกษมวงศ์, ทวีทรัพย์ เหลืองนทีเทพ (2536) ได้วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนการผลิต เพื่อใช้ในการ
วางแผนปรับเปลี่ยนขบวนการผลิต ให้เป็ นไปอย่างคุม้ ค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยเก็บข้อมูลการผลิตเป็ นเวลา 9 เดือน และ
รวบรวมข้อมูลจาก ทะเบียนครุ ภณ ั ฑ์ บัญชีแสดงการรับ-จ่ายสารเคมีที่ใช้ในการผลิต ฯลฯ ทาการแยกประเภทข้อมูลของ
ค่าใช้จ่ายตามหลักการบัญชี และวิเคราะห์ผล พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวผลิตยาทั้งสิ้ น 50 Lot จานวน 3,203,400 เม็ด ปั จจัย
สาคัญที่ทาให้ตน้ ทุนการผลิตสู งคือ ปริ มาณการขายยาน้อย โดยมีปัจจัยส่ งเสริ มคือการบริ หารงานภายใต้ระบบราชการ
ปริ มาณการขายที่นอ้ ยเป็ นปั จจัยจากัดของการผลิต ทาให้ไม่สามารถทาการผลิตได้เต็มกาลัง ส่ งผลให้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมี
สัดส่ วนของค่าใช้จ่ายคงที่ สูงมากกว่าที่ ควร ค่าใช้จ่ายคงที่ ที่เกิ ดขึ้นคิดเป็ น 53.92% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในขณะที่
ค่าใช้จ่ายแปรผัน 46.08% และเมื่อพิจารณาประเภทของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาก 3 อันดับแรกพบว่า อันดับหนึ่ ง เงินเดือน
พนักงาน 26.29% อันดับสอง สารเคมี 25.67% และอันดับสาม อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตและการควบคุมคุณภาพยา 17.66%
คิดเป็ นต้นทุน 0.262 บาทต่อการผลิตยาพาราเซตามอล 1 เม็ด ซึ่ งขายในราคา 150 บาทต่อ 1,000 เม็ด (0.15 บาท/เม็ด) ดังนั้น
ถ้าจะให้คุม้ ค่าการลงทุน พบว่าต้องผลิตจานวนอย่างน้อย 15,614,847 เม็ด (244 Lot) ในปริ มาณการผลิตดังกล่าวจะมีผลทาให้
โครงสร้างของต้นทุนเปลี่ยนไปคือ ค่าใช้จ่ายคงที่ที่เกิดขึ้นคิดเป็ น 19.34% และค่าใช้จ่ายแปรผัน 80.66% ของค่าใช้จ่าย
ทั้งหมด
ระเบียบวิธีวจิ ัย
งานวิจยั นี้ เน้นศึกษาถึงโครงสร้างต้นทุนราคายาของกลุ่มตัวอย่าง พร้อมทั้งสร้างสมการของโครงสร้างต้นทุนราคา
ยาสาหรับกลุ่มตัวอย่าง โดยแบ่งการเก็บข้อมูลเป็ น 2 ส่ วนคือ
1. จากการวิ เ คราะห์ เ อกสาร เพื่ อ ให้ ท ราบสู ต รการผลิ ต ค่ า เฉลี่ ย ของต้น ทุ น ของวัต ถุ ดิ บ หลัก และ
สารประกอบ ค่าบรรจุภณ ั ฑ์ ค่าแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริ หารและอัตราผล
กาไรของกิจการผูจ้ าหน่ายและผูผ้ ลิต
2. จากการสั มภาษณ์ เพื่อให้ทราบข้อมูลสาหรับราคาโอน ค่าใช้จ่ายในการนาเข้า ค่าภาษี และค่าใช้จ่าย
อื่น ๆ ในการนาเข้า ตลอดจนค่าใช้จ่ายการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริ หารและอัตราผลกาไรของกิจการผู ้
จาหน่ายและผูผ้ ลิต
เครื่องมือทีใ่ ช้ ในการวิจัย
P a g e | 16
เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช้ได้แ ก่ การสั ม ภาษณ์ ผูท้ ี่ เ กี่ ย วข้อ งด้ว ยการสั ม ภาษณ์ แ บบมี โ ครงสร้ า งค าถามและ
แบบสอบถามปลายเปิ ด เนื่องจากโครงสร้างตันทุนของกลุ่มตัวอย่างมีความแตกต่างกัน และคาถามที่เป็ นปลายปิ ดไม่ทาให้ได้
ข้อมูลที่ถกู ต้อง และบางครั้งต้องใช้คาถามแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่ งยังไม่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้ขอ้ มูลตามที่ตอ้ งการ
การรวบรวมข้ อมูล
เก็บรวบรวมข้อมูลตามกรอบแนวคิดดังนี้
ระยะเวลาของการทาวิจัย
ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เริ่ มได้รับทุนอุดหนุนการวิจยั
บรรณานุกรม
ดวงมณี โกมารทัต. 2546. การบัญชี ต้นทุน. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั แอ็คทีฟ พริ้ นท์ จากัด.
ปราณี เอี่ยมลออภักดี. 2550. การบริ หารการตลาด. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั ธนาเพรส จากัด.
พัชริ นทร์ ไตรรัตน์รุ่งเรื อง. 2553. การบัญชี ต้นทุน. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยกรุ งเทพ.
พิษณุ จงสถิตวัฒนา. 2548. การบริ หารการตลาด การวิเคราะห์ กลยุทธ์ และการตัดสิ นใจ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุ งเทพมหานคร:
สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ .
ศศิวิมล มีอาพล. 2546. การบัญชี เพื่อการจัดการ. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั อินไมนิ่ง จากัด.
ศิริวรรณ เสรี รัตน์และคณะ. 2544. การบริ หารการตลาดยุคใหม่ . กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั ธี ระฟิ ล์มและไซเท็กซ์ จากัด.
สมาคมนักบัญชีและผูส้ อบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย. 2546. ศัพท์ บัญชี . กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั พี.เอ.ลีฟวิง่ จากัด.
Blocher,Chen, and Lin. 1997. Cost Management: A Strategic Emphasis. United States of America: McGraw-Hill.
Edward J. VanDerbeck. 2002. Principles of Cost Accounting. 12Th ed. South-Western, a division of Thomson Learning:
Cover to Cover Publishing, Inc.
Horngren, Charles T., Foster, George. And M. Datar, Srikant. 1997. Cost Accounting: A Managerial Emphasis. 9th ed.
Englewood Cliffs, N.J.: Prentice-Hall International, Inc.
Hicks, Douglas T. 1999. Activity-Based Costing Making It Work for Small and Mid-Sized Companies. 2nd ed.
United States of America: John Wiley & Sons, Inc.
Hilton, Ronald W., Maher, Michael W. and Selto, Frank H. 2000. Cost Management Strategies for Business Decisions.
2nd ed. United States of America: McGraw-Hill.
Moriarity, Shane, and Allen, Carl P. 1991. Cost Accounting. 3rd ed. New York: John Wiley & sons, Inc.
Raiborn/Dinney/Prather-kinsey. 2008. Cost Accounting. 6th ed. South-Western, a division of Thomson Learning: LEAP
Publishing, Inc.